ดีท็อกซ์ตับ ขจัดสารพิษ
การดีท็อกซ์ตับ คือ การให้วิตามินต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินบี กลูตาไธโอน แมกนีเซียม และสารอาหารต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยเข้าไปส่งเสริมการทำงานของตับ เพื่อให้ตับสามารถขับสารพิษออกจากร่างกายได้ดี จึงทำให้ลดการสะสมสารพิษได้ ส่งผลให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น ช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ในอนาคต ดังนั้นการดีท็อกซ์ตับจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดสารพิษที่ค้างในตับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูแลตับให้แข็งแรง และยังทำให้ผิวพรรณสดใส พร้อมช่วยฟื้นฟูการทำงานตับให้กลับมาทำงานได้ดีและลดความหมองคล้ำของใบหน้าได้อีกด้วย
ใครที่ควรดีท็อกซ์ตับ
- ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคตับ เช่น ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ, ตับแข็ง, ไขมันพอกตับ เป็นต้น
- ผู้ที่มีประวัติรับประทานยาหรือสมุนไพรต่อเนื่องเป็นประจำ
- ผู้ที่ต้องทำงานสัมผัสสารพิษหรือสารเคมีเป็นประจำ เช่น เกษตรกร ผู้ที่ทำงานใกล้โรงงานอุตสาหกรรม ผู้ที่ชอบทำสีผมหรือทำสีเล็บประจำ เป็นต้น
- ผู้ที่ชอบรับประทานอาหารประเภทปิ้ง ย่าง ของทอด อาหารที่ผ่านการแปรรูป เช่น ไส้กรอก หมูยอ และอาหารที่มีสารกันบูดปนเปื้อนเป็นประจำ
- ผู้ที่นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ และมีความเครียดสะสม
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ภูมิแพ้เรื้อรัง โรคเบาหวาน โรคไตเสื่อม เป็นต้น
- ผู้ที่มีผิวพรรณไม่ผ่องใส มีความหมองคล้ำ
ประโยชน์ของการดีท็อกซ์ตับ
- ช่วยเสริมสร้างวิตามินต่าง ๆ ซึ่งมีส่วนช่วยในการจำกัดสารพิษของตับได้ดียิ่งขึ้น
- ป้องกันตับจากสารพิษ ยา สมุนไพร สารเคมี และแอลกอฮอล์
- ช่วยบำรุงเซลล์ตับให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น จากการติดเชื้อหรือจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
- ลดการสะสมของไขมันที่พอกตับ
- ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้กับร่างกาย
- ทำให้ผิวพรรณกระจ่างใส ลดความหมองคล้ำ
ควรทำดีท็อกซ์ตับบ่อยแค่ไหน
การทำดีท็อกซ์ตับสามารถทำได้ทุก 1 - 2 สัปดาห์ หรือนานกว่านั้นขึ้นกับความเหมาะสม ตามดุลพินิจและคำแนะนำของแพทย์
โดย พญ.สุวรรณี ศิริวิมลานันท์
แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ
Wellness & Anti Aging Center