Bangpakok Hospital

Botulinum toxin



โบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum toxin) คือ สารโปรตีนบริสุทธิ์สกัดจากแบคทีเรียบางชนิด ออกฤทธิ์ช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่หดตัวและช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อในบริเวณนั้น

โบทูลินัม ท็อกซิน ออกฤทธิ์อย่างไร

โบทูลินัม ท็อกซิน จะออกฤทธิ์โดยการไปจับกับส่วนปลายของปลายประสาททำให้กล้ามเนื้อส่วนที่เลี้ยงโดยปลายประสาทนั้นคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยที่เกิดจากการขยับและหดตัวของกล้ามเนื้อหายไป ทำให้ผิวเรียบสวย ดูอ่อนเยาว์ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยใหม่ และสามารถใช้ในการแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ได้อีกมากมาย ดังนี้

  • แก้ปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่น โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว ริ้วรอยหางตา ใต้ตา
  • ลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณกราม ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
  • ปรับเปลี่ยนรูปคิ้ว
  • ลดขนาดกล้ามเนื้อน่อง
  • ลดเหงื่อในบางบริเวณ เช่น รักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เพื่อประโยชน์ในด้านการรักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคหรือภาวะความผิดปกติของกล้ามเนื้อทางตาบางโรค เช่น ตาเหล่, ตาเข (Strabismus), หนังตากระตุก (Blepharospasm), โรคหรือภาวะความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาท เช่น โรคดีสโทเนีย (Dystonia) เป็นโรคที่มีอาการเคลื่อนไหวผิดปกติที่เกิดจากระบบประสาทและอาการปวดศีรษะบางชนิด



การเตรียมตัวก่อนฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน
  • สามารถรับประทานอาหารและน้ำได้ตามปกติ
  • กรณีมีโรคประจำตัว, เจ็บป่วย หรือแพ้ยาให้แจ้งแพทย์ก่อนทำการฉีด
  • หากมีประวัติรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด, ยาแก้ปวดบางชนิด เช่น แอสไพริน แนะนำให้หยุดยาก่อนมาทำการฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน ประมาณ 10 - 14 วัน หรือวิตามินบางชนิด เช่น วิตามินอี, โสม, ใบแปะก๊วย แนะนำให้หยุดก่อนมาฉีด ประมาณ 2 - 3 วัน เนื่องจากอาจทำให้มีอาการช้ำได้ง่ายหรือเลือดหยุดยาก โดยหากเป็นโรคประจำตัวที่จำเป็นต้องรับประทานยาดังกล่าว แนะนำปรึกษาแพทย์ก่อนหยุดยา
  • หากมีประวัติของโรคเริมบริเวณริมฝีปาก ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำการรักษา
  • ก่อนทำการรักษา แพทย์จะทำความสะอาดบริเวณที่จะทำการฉีด
  • แพทย์จะฉีดโบท็อกซ์ในตำแหน่งที่ต้องการด้วยเข็มที่มีขนาดเล็กมาก ในบางกรณีหากผู้รับการรักษากลัวเจ็บ อาจใช้ยาชาชนิดทาหรือประคบเย็นก่อนทำการฉีด ซึ่งจะใช้เวลาในการฉีดเพียง 5 - 10 นาที ผู้รับบริการส่วนใหญ่ที่จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยคล้ายมดกัด

ข้อแนะนำหลังทำการฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน

หลังจากการฉีด สามารถแต่งหน้าได้ทันทีและใช้ชีวิต ประจำวันได้ตามปกติ เพียงแต่มีข้อแนะนำหลังทำ ดังนี้

  • ไม่ควรนอนราบหลังการฉีด 2 - 4 ชั่วโมง
  • ไม่ควรนวดหรือดูแรง ๆ รวมถึงไม่แนะนำทรีตเมนต์ต่าง ๆ หรือเลเซอร์ในบริเวณที่ฉีด ภายหลังทำการฉีด 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันยาแพร่กระจายไปยังบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ
  • หากพบว่ามีรอยช้ำหลังการฉีด สามารถประคบด้วยน้ำแข็งหรือผ้าชุบน้ำเย็น ไม่แนะนำให้นวดหรือประคบร้อน

ผลการรักษา

หลังฉีดโบท็อกซ์ จะรู้สึกตึง ๆในบริเวณที่ฉีดและเริ่มเห็นผลหลังฉีดประมาณ 2 - 3 วัน โดยจะเห็นผลเต็มที่ในเวลา 7 - 14 วัน หรือเห็นผลสูงสุด 1 เดือนในกรณีฉีดลดกล้ามเนื้อ ประสิทธิภาพของโบทูลินัม ท็อกซิน นั้นจะคงอยู่ได้นานประมาณ 3 - 8 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและสภาพผิวของแต่ละบุคคล

 

Skin and Aesthetic Center

เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 08:00 – 18:00 น.

ปรึกษาปัญหาสุขภาพและสอบถามรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่

แพ็คเกจและโปรโมชั่น
แพ็คเกจของเรา

1,500.-

Carboxy Booster Mask

Carboxy Booster Mask คือ ทรีตเมนต์เพื่อการดูแลผิวอย่างล้ำลึกใน 3 ขั้นตอน พร้อมเผยผิวใหม่อย่างเป็นธรรมชาติด้วยนวัตกรรมดูแลผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในหนึ่งเดียว เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพลังในการเยียวยาจากบ่อน้ำพุร้อน ซึ่งคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีความเข้มข้นสูงจากน้ำพุร้อน สามารถช่วยเพิ่มออกซิเจนให้ผิวได้อย่างดี (Oxygenation) จากปฏิกิริยา Bohr Effect ซึ่งเกิดจาก Sodium Bicarbonate ที่มีอยู่ในตัว Gel และ Lemon Extract ในแผ่น Mask Sheet ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของทาง Ribeskin ทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือด, เพิ่มการเผาผลาญ และการขจัดของเสียออกจากรูขุมขน ทำให้ผิวพร้อมรับสารอาหารที่มีอยู่ในตัวเจล ส่งผลให้ผิวของคุณนุ่ม ชุ่มชื่น รูขุมขนเล็กลง และกระจ่างใสทันทีหลังจากทำทรีตเมนต์

1,500.-

CO2 Laser

CO2 Laser คือ คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์ที่มีความละเอียดในการทำงานสูง สามารถเลือกทำลายเฉพาะเนื้อเยื่อในบริเวณที่ต้องการได้ โดยไม่สร้างความเสียหายให้กับเนื้อเยื่อโดยรอบ ไม่มีเลือด ไม่จำเป็นต้องเย็บแผล และไม่ทำให้เกิดแผลเป็น

2,000.-

Dual Yellow

Dual Yellow เป็นนวัตกรรมเลเซอร์ที่ผนวกคลื่นแสงเลเซอร์ออกมา 2 ชนิด โดยชนิดแรก เป็นเลเซอร์สีเหลืองมีความยาวคลื่น 578 นาโนเมตร ซึ่งจะมีผลต่อเส้นเลือดฝอยเล็ก ๆ ทำให้รอยแดงจางลง ไม่ทำให้เกิดแผลหรือรอยช้ำ ชนิดที่ 2 เป็นเลเซอร์ชนิดสีเขียว มีความยาว 511 นาโนเมตรคลื่น ซึ่งจะมีผลต่อเม็ดสีของผิวหนังชั้นบนทำให้สีผิวดูสว่างขึ้น รอยหมองคล้ำลดลง ดังนั้นเมื่อใช้ 2 ความยาวคลื่นนี้ร่วมกัน จะช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส ฝ้า รอยดำ รอยแดง และปาานแดง รวมถึงเส้นเลือดฝอยจางลง นอกจากนี้หากใช้พลังงานที่สูงพอ ยังสามารถใช้กำจัดตุ่มเนื้องอกบางชนิดได้ รวมถึงมีการผสมผสานใช้เทคโนโลยี Fast Edge MicroPulse ทำให้มีผลต่อกระตุ้นคอลลาเจนของผิวหนัง ช่วยป้องกันและรักษาริ้วรอยตื้น ๆ ได้อีกด้วย

2,220.-

Super B

ช่วยป้องกันผิวพรรณจากการทำร้ายของอนุมูลอิสระ ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ปกป้องผิวจากแสงแดด ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส

Go to top